Saturday, February 15, 2014



สาเหตุของโรค ไมเกรน
ความจริงแล้ว ยังไม่เป็นที่สรุปแน่ชัดว่าโรคไมเกรนมีส้เหตุจากอะไรกันแน่แต่เข้าใจว่า น่าจะมาจาการเปลี่ยนแปลงของการทำงานที่ระบบประสาทและหลอดเลือดในสมอง
อันมีผลมาจาก สารซีโรโทนิน (serotonin)ลสารอื่นๆจึงทำให้เกิดการอักแสบของเส้นใยประสาทสมองเส้นที่ 5 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมที่ศีรษะและที่ใบหน้า
            เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็จะทำให้หลอดเลือดแดง ที่อยู่ทั้งภายในและภายนอก กะโหลกศีรษะเกิดการหดตัว และขยายตัวแบบผิดปกติ  ทำให้เกิดอาการอักแสบ ซึ่งอาการปวดแบบไมเกรน ก็จะเกิดขึ้น เนื่องจากขณะที่หลอดเลือดภายในกะโหลกหดตัว ก็จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ และเลือดนอกกะโหลกศีรษะขยายตัว ก็จะทำให้อาการปวดเกิดขึ้นได้
ที่น่าสนใจคือตามปกติจะไม่ค่อยปวดศีรษะแต่ถ้ามีปัจจัยเหล่านี้ มากระตุ้นร่วมด้วย อาการปวดศีรษะก็จะกำเริบทันที เช่น
·       อยู่ในที่ที่มีแสงสว่างจ้ามากๆ
·       เกิดความเครียดจัด
·       อยู่ในอารมณ์โกรธ
·       ในคุณสาวๆที่กินยาคุมมักจะเกิดจากผลข้างเคียงจากการกินยาคุม
·       การต้องทนอยู่ในที่ที่มีเสียงดังโคมคามเสมอ
·       อยู่ในที่ที่มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นฉุนรุนแรง
·       การดื่มกาแฟมากเกินไป
·       การใช้สายตามากเกินไป
อย่างไรก็ตามอาการปวดศีรษะก็มีหลากหลายรูปแบบและพอสรุปได้ว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุเหล่า  นี้
·       ปวดศรีษะจากหลอดเลือดที่มาหล่อเลี้ยงสมองหรือที่ประสาทส่วนกลางไม่พอเพียงทำให้ปวดแบบที่เรียกว่า ไมเกรน คือจะปวดศีษชรษะข้างเดียวตามที่เข้าใจกัน แต่จะมีอาการอื่นๆร่วมด้วย คือน้ำตาไหล หายใจลำบาก หน้าผากร้อน เหงื่อออกมาก  ซึ่งอาการเหล่านี้จะยาวนานนับเดือน
·       บางรายมาจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและกล้ามเนื้อโดยรอบเกร็งตัวทำให้มักปวดหัวทั้งสองข้าง และอาจทำให้มีอาการ ข้างเคียงอื่นๆร่วมด้วย เช่น คลื่นไส้อาเจียน อาหารไม่ย่อย ท้องอืดเฟ้อ ซึ่งเข้าใจว่าเมื่อเกิดความเครียด ก็จะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบนี้ และเราจะเรียกอาการปวดแบบนี้ว่า อาการปวดแบบ เทนชั่น นั่นเอง
·       ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงมักเครียดได้ง่าย และเมื่อเครียดแล้วก็จะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะแบบปวดตื้อๆตลอกจนทำให้ที่คอ  ใบหน้า เกิดความผิดปกติ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้คล่องตัวเหมือนเดิม
·       หากคุณมีความอ่อนไหวต่อสารเตมี อากาศ ควันพิษ หรือ อื่นใดก็ตาม  ก็จะมีอาการปวดศีรษะได้

  อ้างอิง จากหนังสือ : อาหารเพื่อสุขภาพ กินอย่างฉลาด ปราศจากโรค